นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 34.50 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็ง ค่าจากปิดตลาดช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 34.60 บาท/ดอลลาร์

เช้านี้เงินบาทแข็งค่าจากท้ายตลาด ขณะที่สกุลเงินในภูมิภาคเคลื่อนไหวแบบผสม จากปัจจัยทองคำในตลาดโลกพุ่งขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้มี Flow ส่งออกทองคำ ทำให้เงินบาทแข็งค่า

สำหรับวันนี้ไม่มีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐ โดยช่วงนี้ต้องติดตามสถานการณ์ในตะวันออกกลาง รัสเซีย-ยูเครน

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 34.40 – 34.65 บาท/ดอลลาร์

ปัจจัยสำคัญ

• เงินเยน อยู่ที่ระดับ 154.80 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 153.66 เยน/ดอลลาร์
• เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0600 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0540 ดอลลาร์/ยูโร
• อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท. อยู่ที่ระดับ 34.611 บาท/ดอลลาร์
• “บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ” อนุมัติ แจกเงินผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป 4 ล้านคน วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท เตรียมรับเงิน ก่อนตรุษจีน ส่วนเฟสต่อไป เคาะ เม.ย.68 เผยระบบในแอปพลิเคชันสมาร์ตโฟนเสร็จต้นปี 68 พร้อมเห็นชอบพักหนี้กลุ่มหนี้เสียไม่เกิน 1 ปี วงเงินรวม 1.2-1.3 ล้านล้านบาท พักดอกเบี้ย 3 ปี “นายกฯ” ชี้เศรษฐกิจไทยปีหน้าเห็นสัญญาณบวก
• ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (19 พ.ย.) โดยปรับตัวตามทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่ชะลอตัวลง ขณะที่นักลงทุนจับตาการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ย
• สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์ก ปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ในวันอังคาร (19 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเดินหน้าซื้อ ทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังมีสัญญาณบ่งชี้ว่าสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน มีแนวโน้มทวีความรุนแรงและบานปลาย
• กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านลดลง 3.1% สู่ระดับ 1.31 ล้านยูนิตในเดือนต.ค. ซึ่ง เป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 1.34 ล้านยูนิต จากระดับ 1.35 ล้านยูนิตในเดือน ก.ย.
• นักลงทุนจับตาการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตรา ดอกเบี้ย โดยขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนัก 63% ต่อการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนธ.ค.
• ข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ที่จะรายงานในช่วงที่เหลือของสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานราย สัปดาห์, ยอดขายบ้านมือสองเดือนต.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการขั้นต้นเดือนพ.ย. จาก S&P Global และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนพ.ย.

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 พ.ย. 67)